Botox  กับ HIFU คืออะไร?

            โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) หรือชื่อการค้ารู้จักกันชื่อว่า โบท็อกซ์ (Botox) ที่นำมาใช้เสริมความงาม เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) มี 7 ชนิด คือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด เอ (botulinum toxin type A) ถึงโบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด จี (botulinum toxin type G) จัดเป็นสารพิษออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (neurotoxin) โดยจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตชั่วคราว  

           โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ซึ่งช่วยในเรื่องของริ้วรอย เช่น ตีนกา รูปหน้า ริ้วรอยบนใบหน้าต่างๆ ยกกระชับผิว ทำให้หน้าดูเรียวขึ้น เป็นต้น โดยสารจะไปทำให้กล้ามเนื้อเราคลายตัว ยกตัวอย่างเช่น ตรงกรามที่เรามีการเคี้ยวอาหารมากๆ ซึ่งทำให้กรามใหญ่ เราก็สามารถฉีด Botox ให้ขนาดกรามลดลง หน้าเรียวขึ้นได้ซึ่งการทำครั้งนึง สามารถอยู่ได้โดยประมาณ 3-8 เดือน ขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ อีกด้วย เช่น ฉีดครั้งแรก ฉีดซ้ำ อีกทั้ง Botox เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้ว จะสามารถสลายไปเองได้ภายใน 6-12 เดือน โดยไม่ตกค้าง

             HIFU หรือ High Intensity Focus Ultrasound เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง โดยส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหนังในชั้น SMAS หดตัว คล้ายกับการเย็บที่เนื้อ ซึ่งกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจน หรือสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นการดึงหน้า โดยส่งผลให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์มากขึ้น และไม่ต้องลงเข็มที่ใบหน้าให้เจ็บ อาจจะมีรอยแดงบ้าง แต่สามารถหายไปได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง อีกทั้งไม่ต้องพักฟื้นและไม่มีแผลใดๆ และสามารถอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาตัวเอง

               ระหว่าง BOTOX กับ HIFU นั้นต่างกันอย่างไร ทั้งนี้ขึ้นกับว่าหากผิวหน้ามีปัญหาและเกิดริ้วรอย ควรฉีด BOTOX เพื่อทำการลดริ้วรอยจะดีกว่า ในขณะที่ HIFU อาจจะเหมาะกับคนไข้ที่ยังมีอายุไม่มากนัก พึ่งเริ่มมีริ้วรอยเพียงเล็กน้อย ซึ่งทั้ง BOTOX และ HIFU จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัญหาของผิวหน้า กระบวนการ และราคา เป็นต้น